Projects on deviant sexual behavior of those famous

พฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของผู้ที่มีชื่อเสียง

1.ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
            เนื่องจากปัจจุบันนี้ กระแสเกี่ยวกับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนักร้อง/นักแสดง มีออกมาให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดของวัยรุ่น ที่มักจะทำตามกระเเสโดยที่ไม่ทันยั้งคิดว่าเหมาะสมหรือไม่  คณะผู้จัดทำจึงเกิดความสงสัยว่า วัยรุ่นมีความคิดเห็นอย่างไร เกี่ยวกับพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของผู้ผู้ที่มีชื่อเสียง (นักร้อง/นักแสดง) และคณะผู้จัดทำได้ศึกษาพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศว่าเกิดจากอะไร สามารถรักษาได้หรือไม่ และสังคมในปัจจุบันนี้ได้ยอมรับผู้ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศมากน้อยเพียงใด จึงจัดทำโครงงาน พฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของผู้ที่มีชื่อเสียง นี้ขึ้นมา

2.วัตถุประสงค์ของโครงงาน
  2.1 เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศ
  2.2 เพื่อศึกษาความคิดเห็นของวัยรุ่นที่มีต่อพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของผู้ที่มีชื่อเสียง (นักร้อง/นักแสดง)
3.สมมุติฐาน
   พฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของนักร้อง/นักแสดงมีอิทธิพลต่อความคิดของวัยรุ่นและอาจจะเอาเป็นแบบอย่าง

4.อุปกรณ์และวิธีดำเนินการ
  1.ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับ พฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศ
  2. ค้นประวัติของผู้ที่มีชื่อเสียงที่มีพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศ
  3. จัดทำแบบสอบถามและสัมภาษณ์ นักเรียนโรงเรียนอำนาจเจริญ ( นักเรียนชั้น ม.3/1 )
  4.สรุปและบันทึกผล

5.ผลการดำเนินโครงงาน
    การศึกษาค้นคว้าการจัดทำโครงงานเรื่อง พฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของผู้ที่มีชื่อเสียงตามขั้นตอนที่วางแผนกันไว้ สรุปได้ดังนี้

    1.พฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของที่มีชื่อเสียง ( นักร้อง/นักแสดง ) มีอิทธิพลต่อจิตใจและความคิดของกลึ่มวัยรุ่น เพราะวัยรุ่นบางส่วนอยากจะเป็นเหมือนผู้ที่มีชื่อเสียงบางคน
    2.ได้รุ้ว่าสังคมไทยในปัจจุบันนี้ได้ให้การยอมรับกลุ่มบุคคล ที่มีพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศมากขึ้น
    3.ได้ศึกษาเกี่ยวกับอาการ  สาเหตุ  ที่มำให้เกิดการเบี่ยงเบนทางเพศ

6.สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
      การศึกษาเรื่อง พฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของผู้ที่มีชื่อเสียง สามารถสะท้อนให้เราเห็นว่าวัยรุ่นมักเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆที่ดีและไม่ดีของนักแสดงหรือนักร้อง แต่บุคคลที่เบี่ยงเบนทางเพศก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนไม่ดี แต่ต้องรู้จักปรับตัวหรือวางตัวให้ถูกต้องในสังคม และการช่วยเหลือสามารถทำได้โดยส่งเสริมให้เขาปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีความสุข โดยไม่จำเป็นว่าต้องเปลี่ยนแปลงให้เขากลับเป็นเหมือนคนปกติ  การป้องกันการเป็นรักร่วมเพศ จึงมีความสำคัญมากกว่า โดยการส่งเสริมการเลี้ยงดูเด็กให้ถูกต้องตาเพศที่แท้จริงและมีพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อและแม่กับลูกนั่นเอง

7.อ้างอิงและเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
www.dek-d.com/board/view.php?id=1383891